ประกันชีวิต

1. ทำไมต้องมีการวางแผนประกันชีวิต

เพราะความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน เป็นสัจธรรมของชีวิตที่ทุกคนต่างตระหนักกันดี ยิ่งความไม่แน่นอนในด้านร้ายๆ ที่เกิดได้กับทุกช่วงตอนของชีวิต ยิ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อาจคาดเดาได้เลย แม้ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเอง และคนในครอบครัวก็ตาม ไม่มีใครสามารถหลีกหนีเรื่องเหล่านี้ไปได้ สิ่งหนึ่งที่ช่วยคลายความกังวล และเป็นการสร้างหลักประกันที่มั่นคงในอนาคตได้ คือ การทำประกันชีวิต ที่จะสามารถให้ความคุ้มครองตนเอง และครอบครัว จากการสูญเสียรายได้ และทรัพย์สินต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันได้

การทำประกันชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนทางการเงิน เพราะช่วยสร้างความมั่นคงแน่นอน ให้กับแผนการเงินของคุณ เพราะหลักสำคัญ คือ การซื้อความคุ้มครอง และยังถือว่าเป็นการออมทรัพย์อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย


2. รูปแบบประกันชีวิต

แบบตลอดชีพ ( Whole Life ) การประกันชีวิตที่บริษัทจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตในระหว่างสัญญา หรือ มีชีวิตยืนยาวจนถึง 90 ปี หรือ 99 ปี แล้วแต่บริษัทจะกำหนด ซึ่งเป็นการคุ้มครองการเสียชีวิตในระยะยาว แต่เบี้ยประกันชีวิตอาจจะชำระชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือตลอดชีพก็ได้ แล้วแต่กำหนด
ประกันแบบตลอดชีพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างกองทุน สำหรับจุนเจือให้ครอบครัว หรือกับผู้ที่อยู่ในอุปการะ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต เป็นแบบประกันให้ความคุ้มครองระยะยาว ผู้เอาประกันสามารถซื้อความคุ้มครองในวงเงินที่สูง แต่ชำระเบี้ยต่ำ ความคุ้มครองจะครอบคลุมตลอดชีวิตของผู้เอาประกัน

แบบสะสมทรัพย์ ( Endowment Life ) การประกันชีวิตที่มีการกำหนดระยะเวลาของสัญญที่แน่นอน และถ้าผู้เอาประกันอยู่ครบอายุสัญญาก็จะได้รับเงินเอาประกันจากบริษัทประกันชีวิต แต่ถ้าผู้เอาประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาเอาประกันก่อนครบกำหนดสัญญา ผู้รับประโยชน์ก็จะได้รับเงิน
ประกันแบบสะสมทรัพย์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งความคุ้มครอง และการออมทรัพย์ หรือต้องการเงินสะสมไว้ใช้ในอนาคต เพราะเมื่อครบสัญญาผู้เอาประกัน ก็จะได้เงินตามที่ได้กำหนดไว้ในสัญญา

แบบชั่วระยะเวลา ( Term Life ) การประกันชีวิตที่จะให้ความคุ้มครองในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ตามที่บริษัทกับผู้เอาประกันทำสัญญากันไว้ แต่ถ้าอยู่รอดปลอดภัยจนครบสัญญาก็จะไม่มีเงินคืนให้ ด้วยเหตุนี้เบี้ยประกันแบบชั่วระยะเวลาจึงต่ำ
ประกันแบบชั่วระยะเวลา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูง แต่ชำระเบี้ยประกันต่ำ จะเหมาะแก่การทำประกันรูปแบบนี้ เช่น ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน และต้องการทำประกันคุ้มครองการกู้จำนองบ้าน หรือทำประกันเพื่อคุ้มครองการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อความอุ่นใจเป็นหลัก

แบบเงินได้ประจำ (Annuity Insurance ) การประกันชีวิตที่จ่ายเงินได้ประจำเป็นรายเดือนหรือรายปีให้แก่ผู้เอาประกันจนกว่าจะเสียชีวิต หรือจ่ายตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 10 ปี หรือ 20 ปี โดยเริ่มจ่ายหลังจากผู้เอาประกันภัยเกษียณอายุ หรือหลังจากส่งเบี้ยประกันครบตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ การประกันชีวิตแบบนี้เรียก แบบบำนาญ เพราะมีวัตถุประสงค์เพื่อสะสมเงินไว้ใช้ในยามชรา รวมทั้งคุ้มครองในยามเกษียณเมื่อเสียรายได้ไป

จะเห็นได้ว่ารูปแบบของกรมธรรม์ แต่ละประเภทมีความเหมาะสมกับแต่ละคนต่างกันออกไป โดยจะต้องมีการศึกษาข้อมูล และผลประโยชน์ต่างๆ ให้ละเอียด ก่อนการตัดสินใจทำประกันชีวิต เพื่อหลักมั่นคงในอนาคตของครอบครัวแล้วตัวเอง


3. ขั้นตอนการซื้อประกันชีวิต

  1. สำรวจความต้องการในการทำประกันชีวิต
  2. เลือกแบบประกันชีวิตให้เหมาะสม และตรงกับความต้องการให้มากที่สุด เพราะการทำประกันชีวิต ในแต่ละแบบนั้นแตกต่างกันไป ทั้งความคุ้มครองผลประโยชน์ และเงื่อนไขการจ่ายเงิน
  3. ประมาณกำลังความสามารถ ในการชำระเบี้ยประกันภัยของตัวเอง ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย เพราะถ้าขาดการชำระเบี้ยประกันภัยนั้น จะทำให้กรมธรรม์ของคุณขาดผลบังคับ และสิ้นสุดความคุ้มครอง ทำให้เสียผลประโยชน์ที่พึงจะได้รับ
  4. กรอกข้อมูลในใบคำขอเอาประกันภัยตามความเป็นจริง อาจจะกรอกด้วยตัวเอง หรือถ้าตัวแทนประกันกรอกให้ จะต้องตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องของข้อมูลก่อนลงลายมือชื่อ
  1. เมื่อชำระเบี้ยประกันภัยครั้งแรก จะต้องเรียกใบเสร็จรับเงิน ชำระเบี้ยประกันภัยชั่วคราว จากตัวแทนประกันชีวิต เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
  2. บริษัทจะออกกรมธรรม์ มาให้พร้อมกับใบเสร็จรับเงินตัวจริง จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียด โดยเฉพาะข้อมูลที่ระบไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์ ว่าถูกต้องตรงกับความประสงค์ตามที่แจ้งไว้ในใบคำขอหรือไม่ ถ้าพบความผิดพลาด จะต้องรีบแจ้งทางบริษัทเพื่อแก้ไข
  3. เมื่อได้รับกรมธรรม์แล้ว ควรที่จะอ่านกรมธรรม์ให้ละเอียด เพื่อศึกษาเงื่อนไขของกรมธรรม์ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ที่คุณพึงจะได้รับ
  4. จ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตตามกำหนดทุกครั้ง โดยติดต่อชำระที่บริษัท สาขา หรือทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือผ่านธนาคาร ในกรณีชำระผ่านตัวแทนประกันชีวิตของบริษัท ให้เรียกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวเก็บไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก รู้รอบด้าน แผนการเงิน


บทความที่เกี่ยวข้อง

“บริการให้คำปรึกษาการวางแผนการเงินส่วนบุคคล โดยที่ปรึกษาทางการเงินด้านการลงทุน  AFPT และนักวางแผนการลงทุน ได้รับอนุญาตจาก กลต”